เทคนิคการยื่นหลักสูตรกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้ผ่านเร็วและง่ายขึ้น

เทคนิคการยื่นหลักสูตรกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้ผ่านเร็วและง่ายขึ้น

     ปัจจุบันการยื่นขอรับรองหลักสูตรกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ต้องดำเนินการ ยื่นแบบ ยป.1 ยป.4 ผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้า และได้รับการอนุมัติเท่านั้น จึงจะสามารถจัดฝึกอบรมได้จริง

     ถือเป็นความท้าทายของมือใหม่ที่ยังไม่ชำนาญในการเขียนข้อมูล ดังนั้น เพื่อให้การยื่นเอกสาร ผ่านเร็ว ทันเวลา ต้องเข้าใจ "6 สิ่ง " สำคัญก่อนเริ่มกรอกหรือเขียนข้อมูลหลักสูตร

  6 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเขียนหลักสูตร

1.  ผู้เข้ารับการฝึกอบรมคือใคร (Who)
ต้องรู้ให้ลึกว่า เขาทำหน้าที่อะไร ไม่ใช่แค่ชื่อหรือตำแหน่ง เช่น
พนักงานขาย นำเสนอสินค้าและดูแลลูกค้า
พนักงานซ่อมเครื่องพิมพ์ ตรวจเช็กและซ่อมบำรุงเครื่องพิมพ์
ข้อมูลนี้สำคัญต่อการเขียน หลักการและเหตุผล และ วัตถุประสงค์ (Objective) ให้เฉพาะเจาะจงและชัดเจน

2. ขีดความสามารถหรือทักษะที่ต้องพัฒนา (GAP/Pain Point)
ต้องชี้ให้เห็นจุดที่ควรพัฒนา เช่น
พนักงานขายมีข้อร้องเรียนเรื่องการสื่อสารไม่เหมาะสม
วัตถุประสงค์ควรระบุ พัฒนาทักษะการสื่อสารและการบริการที่สร้างความประทับใจ
เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดเนื้อหา (Content) ให้ตรงกับปัญหาและเป้าหมายองค์กร

3. จำนวนผู้เข้ารับการฝึก
ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน คือ
1.    การบรรยาย ไม่เกิน 100 คน
2.    การทำกิจกรรมกลุ่ม ไม่เกิน 50 คนต่อวิทยากร 1 คน
3.    การฝึกภาคปฏิบัติ ไม่เกิน 25 คนต่อวิทยากร 1 คน

อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ในการสร้างการเรียนรู้ของผู้เขียน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรจำกัดไม่เกิน 30 คนต่อรุ่น เพื่อให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนและฝึกฝนอย่างทั่วถึง

4. วัตถุประสงค์ (Objective)
ควรเชื่อมโยงกับข้อ 2 อย่างตรงไปตรงมาเพื่อการแก้ไขปัญหาหรือเพิ่มเติมให้ตรงจุด และระบุให้ชัดว่าหลักสูตรนี้เป็นการอบรมประเภทใดภายใต้เงื่อนไขของกรมฯ
การฝึกเตรียมเข้าทำงาน
การฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน
การฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ
และต้องเขียนให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่ต้องการเห็นจริง เช่น เสริมทักษะและเทคนิคในการซ่อมงาน หรือ เพิ่มทักษะและประสิทธิภาพและคุณภาพงานบริการให้ดีขึ้น

5. งบประมาณและค่าใช้จ่าย
ควรศึกษาก่อนว่า ค่าใช้จ่ายใดบ้างที่กรมฯรับรอง เช่น ค่าวิทยากร ค่าวัสดุฝึก ค่าสถานที่ ค่าเอกสาร ฯลฯ และต้องมีหลักฐานประกอบครบถ้วน
ข้อควรระวัง:
ต้องเป็นค่าใช้จ่ายจริง มีใบเสร็จชัดเจน
ต้องสัมพันธ์กับกิจกรรมฝึกอบรม
ถ้า ไม่สมเหตุสมผล หรือเกินขอบเขตเนื้อหา ไม่มีความจำเป็น อาจถูกปฏิเสธ

6. การเตรียมเอกสารให้ครบก่อนยื่น
ตรวจให้ครบทุกแบบฟอร์ม ยป.1 ถึง ยป.4
แนบเอกสารหลักสูตร ตารางอบรม ประวัติวิทยากร รายการค่าใช้จ่าย และใบรับรองต่าง ๆ ให้ครบ
ก่อนกดยื่นในระบบ ตรวจสอบอีกครั้งว่าข้อมูลสอดคล้องกันทุกหน้าและมีการลงนามอย่างถูกต้อง

สรุป

" หัวใจสำคัญของการยื่นหลักสูตรให้ผ่านไม่ใช่เพียง เขียนให้ครบ แต่คือ เข้าใจที่มาของหลักสูตรอย่างแท้จริง รู้ว่าใครคือผู้เรียน ปัญหาคืออะไร จะพัฒนาอย่างไร และใช้งบประมาณได้แค่ไหน การเตรียมครบทั้ง 6 ข้อนี้คือ ทางลัดที่ถูกต้อง ที่ทำให้หลักสูตรของคุณผ่านง่ายขึ้นและได้รับอนุมัติอย่างมืออาชีพ"

หากคุณต้องการ ที่ปรึกษามืออาชีพในการออกแบบหลักสูตรและยื่นกรมฯ
ติดต่อทีม ToGrow Training ได้ที่
Line: sirapaphakkd | โทร 084-991-6493,089-199-6455
www.trainingtgt.com